พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์ในสิ่งสร้างและในธรรมบัญญัติ (สดด. 19:1-14)
  1. ท้องฟ้าประกาศพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า แผ่นฟ้าบอกเล่าผลงานจากพระหัตถ์ของพระองค์
  2. วันหนึ่งบอกให้อีกวันหนึ่งรู้ คืนหนึ่งมอบความรู้นี้แก่อีกคืนหนึ่ง
  3. ไม่มีคำพูด ไม่มีวาจาใด ที่ไม่มีใครไม่ได้ยินเสียง
  4. เสียงของเขาเหล่านี้กระจายไปทั่วแผ่นดิน และวาจาของเขาแพร่สะพัดไปจนสุดปลายพิภพ บนท้องฟ้าพระองค์ทรงตั้งกระโจมสำหรับตะวัน
  5. ที่ผายผันออกมาดุจเจ้าบ่าวจากห้องวิวาห์ เริงร่าราวนักรบผู้แกล้วกล้าวิ่งตามทางของตน
  6. ตะวันขึ้นมา ณ ขอบฟ้าด้านหนึ่ง แล้วโคจรไปยังขอบฟ้าอีกด้านหนึ่ง และไม่มีสิ่งใดจะหลบหนีความร้อนของตะวันได้
  7. ธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์นั้นสมบูรณ์ทุกประการ ให้ความชื่นบานแก่ดวงวิญญาณ กฤษฎีกาของพระองค์ก็น่าเชื่อถือ ให้ปรีชาญาณแก่ผู้ด้อยปัญญา
  8. ข้อบังคับของพระยาห์เวห์นั้นสุจริต ทำให้ดวงจิตปีติยินดี บทบัญญัติของพระองค์ก็ชัดเจน ให้แสงสว่างแก่ดวงตา
  9. ความยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นบริสุทธิ์ ดำรงอยู่ตลอดไป กฎเกณฑ์ของพระยาห์เวห์ก็สัตย์จริง เที่ยงธรรมทุกประการ
  10. เป็นที่พึงปรารถนามากกว่าทองคำ น่าปรารถนายิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์มากมาย หวานล้ำกว่าน้ำผึ้ง ที่หยดลงมาจากรวง
  11. แม้ผู้รับใช้ของพระองค์ก็ยังยอมรับการอบรมจากกฎเหล่านี้ และรับบำเหน็จยิ่งใหญ่ในการปฏิบัติตาม
  12. ใครเล่าจะรู้ข้อบกพร่องของตน? ขอพระองค์ทรงอภัยความผิดที่มองไม่เห็นด้วยเถิด
  13. ขอพระองค์ทรงช่วยผู้รับใช้ให้พ้นจากความจองหอง อย่าให้ความจองหองนี้ครอบงำข้าพเจ้าเลย เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่มีที่ตำหนิ บริสุทธิ์พ้นจากบาปหนัก
  14. ขอให้ถ้อยคำจากปากและความคิดจากใจข้าพเจ้า เป็นที่โปรดปรานfเฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ทรงเป็นหลักศิลาและผู้กอบกู้ข้าพเจ้า